สมุทรปราการหรือเมืองปากน้ำ และมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เมืองพระประแดง มีพื้นที่ประมาณ 1,004 ตารางกิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 29 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากอ่าวไทย ดังนั้นจึงเป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลที่สำคัญมาทุกยุคทุกสมัย ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มไม่มีภูเขา มีลำคลองหลายสาย ในฤดูแล้งน้ำจะเค็มจัด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่นาและสวน แต่ถึงอย่างไรสมุทรปราการก็มีของดีของฝากที่ขึ้นชื่อลือชา มีอะไรกันบ้างตามไปดูกันเลย
1. ปลาสลิดบางบ่อ
ปลาสลิดบางบ่อ ของดีขึ้นชื่อประจำจังหวัดสมุทรปราการ เดิมชาวบ้านแถบ อ. บางบ่อ มีอาชีพทำนาข้าว ต่อมามีโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้นและรุกพื้นที่นา ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจืดที่ใช้ในการทำนาจึงกลายเป็นน้ำกร่อยค่อนข้างเค็ม ส่งผลให้ได้ผลผลิตข้าวไม่ดี
ชาวบ้านจึงหันมาขุดบ่อเลี้ยงปลาสลิด โดยใช้น้ำกร่อยในการเลี้ยงปลา ซึ่งน้ำกร่อยเป็นแหล่งน้ำที่มีไรแดงซึ่งเป็นอาหารชั้นยอดของปลาสลิด ช่วยในการเจริญเติบโตได้ดี ปลาสลิดจึงมีความสมบูรณ์ เมื่อชาวบ้านนำมาแปรรูปโดยการหมักเกลือแล้วตากแดดแล้วปลาเนื้อนุ่มเหนียวอร่อย
ในการเก็บผลผลิต เกษตรกรจะทำการวิดบ่อปลาสลิดปีละครั้งในช่วงเดือน ม.ค. ซึ่งจะได้ปลามาตากแห้งขายตลอดทั้งปี ปลาสลิดบางบ่อมี 2 ชนิด คือ
- ปลาหอม มีราคาแพงถึงกิโลกรัมละเกือบ ๓๐๐ บาท เพราะกรรมวิธีค่อนข้างพิถีพิถัน ที่ต้องนำปลาสลิดที่ขอดเกล็ดและผ่าไส้ออกแล้วล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นใส่ลงในกะละมังและโรยเกลือ แล้วค่อยๆ ฝัดเกลือคลุกเคล้าให้ทั่วตัวปลา ทิ้งไว้ให้เกลือซึมเข้าเนื้อปลาก่อนนำใส่เข่งให้เลือดปลาไหลออกจนแห้ง เนื้อปลาจะพอง ท้ายสุดจึงนำปลาไปตากแดดสองแดด ได้ปลาสลิดแห้งที่มีกลิ่นหอม เนื้อปลาแน่นแต่นุ่ม
- ปลาน้ำแข็ง ใช้น้ำแข็งกับเกลืออัดลงไปบนปลาสลิดที่เคล้าเกลือแล้วสลับกันเป็นชั้นๆ ให้ความเย็นทำให้เนื้อปลาแข็ง จากนั้นนำมาตากแดดครึ่งวันแล้วนำออกขาย ปลาน้ำแข็งจึงมีน้ำหนักมากกว่าปลาหอม แต่ราคาก็จะถูกกว่านั้นเอง
ใครแวะมาเที่ยวก็อย่าลืมซื้อของดีอย่าง ปลาสลิดบางบ่อกลับบ้านเป็นของฝากกันด้วยนะคะ เพราะนับเป็นของอร่อยที่ผู้รับต้องยิ้มให้กับความอร่อยแน่นอน
2. กุ้งเหยียด
ต้องบอกว่าเป็นที่รู้จักกันดีของชาวอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เพราะเป็นอีกของอร่อย ที่ผ่านมาทีไรเป็นต้องซื้อฝาก เดิมชาวบ้านสาขลา ตำบลนาเกลือ นิยมนำกุ้งสดมาต้มให้สุกเพื่อรับประทานกับข้าวต้ม หรือข้าวสวย ที่ทำกินสืบต่อกันมา จนเกิดเป็นอาชีพ โดนนำภูมิปัญญา ดั้งเดิมที่เกิดจากการรับประทานอาหารประเภทกุ้ง มาทำนากุ้ง หรือเรียกว่าวังกุ้ง ด้วยการเลี้ยงกุ้งตามธรรมชาติ กับเลี้ยงกุ้งโดยการนำพันธุ์กุ้งมาเลี้ยงในวัง
และได้นำกุ้งมาแปรรูป เพื่อให้เป็นอาหารที่รับประทานได้นานขึ้น ด้วยวิธีการถนอมอาหาร โดยการนำกุ้งมาต้ม แล้วเอาไปตากแดดให้แห้งสนิท กะเทาะเปลือกออกเหลือแต่เนื้อกุ้งเรียกว่า “กุ้งแห้ง “ ถ้าต้มกุ้งให้มีรสเค็ม เรียกว่า “กุ้งเค็ม“ ถ้าต้มกุ้งให้มีรสหวาน เรียกว่า “กุ้งหวาน“
แต่สำหรับที่นี่ เราทำเป็น “กุ้งเหยียด“ โดยใช้การปรุงรสแบบผสมผสาน เกลือ น้ำตาล น้ำพอประมาณ ให้มีรสออกเค็ม ออกหวานกลมกลืนพอดี โดยเน้นว่าตัวกุ้งต้องตัวเหยียดตรงเป็นพิเศษ จึงได้ชื่อว่า “กุ้งเหยียด“ บรรจุใส่กล่อง ใส่ถุงทันสมัยเป็นของฝาก ของที่ระลึก จากแหล่งท่องเที่ยวบ้านสาขลา ตลาดโบราณ, วัดสาขลา อันมีหลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ และพระปรางค์เอียง อันเป็นสัญลักษณ์ความโดดเด่นของบ้านสาขลา – นาเกลือ สืบทอดยาวนานมาเกือบ 200 ปี ใครที่แวะมาเที่ยวไหวพระ ก็อย่าลืมซื้อกุ้งเหยียดกลับไปกินกันด้วยนะคะ
3. ขนมจาก
เดิมเป็นของฝากขึ้นชื่อมีขายอยู่ทุกแห่งในปากน้ำ แม้เป็นเพียงขนมที่มีราคาเพียงบาท สองบาท โดยเฉพาะ ขนมจากของ ร้านลิ้มดำรงค์ ที่ดำเนินการสืบทอดกันมาเป็นเวลากว่า 100 ปี ที่ถนนศรีสมุทร เยื้องทางเข้าท่าเรือข้ามฟากไปพระสมุทรเจดีย์ เมื่อก่อนถึงกับมีคนพูดกันว่ามาปากน้ำถ้าไม่ได้ซื้อขนมจาก ถือว่ายังมาไม่ถึง
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ ที่แวะมาเที่ยวสมุทรปราการก็อย่าลืม ซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันกลับบ้านด้วยนะคะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง แต่ถ้ายังไม่มีที่พักก็สามารถแวะพักกับเราได้ที่ โรงแรม Maybis hotel ของเราเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไว้รอคุณรวมถึงเราเป็นบริการแบบ Pet Friendly ยินดีต้อนรับคุณและสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณทั้งขนาดเล็ก และขนาดกลางไม่ว่าคุณจะพาน้องหมาหรือน้องแมวมาด้วย ก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ เพราะเราเข้าใจดีว่าสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนคนในครอบครัว วันหยุดนี้ไม่รู้จะไปไหนอย่าลืมมาเที่ยวสมุทรปราการกันนะคะ
อ้างอิงข้อมูลโดย : สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสมุทรปราการ
